FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว เพิ่มขึ้น 4% ที่ ระดับ 101.19 เหตุ คาดหวังศก.ในประเทศจะฟื้นตัว มองกลุ่มอาหารเด่นสุด แต่กลุ่มแบงก์ยังไม่น่าสนใจ คาดเป้า SET ปีนี้ 1,400-1,450 จุด ส่วน Fund Flow ยังไม่กลับมา
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยในงานแถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน ก.ค. 63 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.ย.63) อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (ช่วงค่าดัชนี 80 - 119) โดยเพิ่มขึ้น 4% มาอยู่ที่ระดับ 101.19
นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐ และการไหลเข้าออกของเงินทุน อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสสอง เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าออกของเงินทุน และนโยบายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงยังคงกังวลกับการระบาดรอบสองของ COVID-19
หมวดธุรกิจที่นักลงทุนลงความเห็นว่าน่าสนใจมากที่สุด คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD) ส่วนหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK) ขณะที่ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ด้านปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างประเทศต่าง ๆ อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความขัดแย้งบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลกระทบของโควิดต่อเศรษฐกิจ การผ่อนคลายล็อคดาวน์ และมาตรการสนับสนุนต่างๆ ทั้งมาตรการด้านการคลัง มาตรการด้านสินเชื่อ และมาตรการด้านการเงิน
ทั้งนี้ประเมินว่าเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 63 จะอยู่ที่ระดับ 1,400-1,450 จุด ส่วนทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) มองว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกมากพอที่จะทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้ามามามาก ซึ่งในช่วงไตรมาส3 ยังเร็วเกินไปที่จะไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นไทย เพราะนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นต่อการคลายล็อคมาตรการต่างๆว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีแค่ไหน
ด้านนายเจฟ สุธีโสภณ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ให้คำแนะนำการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้อยกว่าตลาด เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในปีนี้จะลดลง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับผลประกอบการในปี 64 จะยังไม่ฟื้นตัวจากในปี 63 แต่หากเป็นนักลงทุนระยะยาวก็สามารถเลือกลงทุนได้ ส่วนนักลงทุนระยะสั้น 1ปีไม่แนะนำให้เข้าลงทุน
"มีอิทธิพล" - Google News
July 06, 2020 at 11:07PM
https://ift.tt/2O20gOv
FETCO เผย ดัชนีเชื่อมั่นนลท.มิ.ย.เพิ่มขึ้น4% หวังศก.ในปท.ฟื้นตัว - efinanceThai
"มีอิทธิพล" - Google News
https://ift.tt/3gIvPK6
Home To Blog
No comments:
Post a Comment