ซึ่งในอดีต การจัดสรรโควตาจำหน่ายสลาก เป็นที่รู้กันว่าจะมีผู้ค้ารายใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพล รับสลากฯ มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อมาขายต่อให้ยี้ปั๊ว จากนั้นกลุ่มซาปั๊ว และผู้ค้ารายย่อยจะมารับซื้อไปขายต่ออีกต่อ ทำให้ในยุคนั้น สลากฯ จะขายเฉลี่ยอยู่ที่ราคา 120 บาท
ต่อมา สำนักงานสลากฯ ตัดวงจรผู้มีอิทธิพล แล้วกำหนดการจำหน่ายสลากใหม่ด้วยการลงทะเบียน เพื่อรับโควตาการจำหน่ายสลากฯ อีกกลุ่ม ก็คือ จัดสรรสลากฯ มูลนิธิ ให้กับผู้พิการ, ผู้ด้อยโอกาส หรือสลากการกุศล พร้อมทั้งกำหนดราคาขาย จะต้องไม่เกินฉบับละ 80 บาท
ปัจจุบัน สำนักงานสลากฯ ได้กำหนดราคาต้นทุนของสลากฯ ที่ส่งออกจากต้นทาง ฉบับละ 70.40 บาท ซึ่งเป็นการคิดคำนวณแล้วว่า เมื่อผู้ขายนำไปขายในราคาฉบับละ 80 บาท จะได้กำไรฉบับละ 9.60 บาท ก็น่าจะเพียงพอ แต่ปรากฏว่าก็ยังมียี่ปั๊วมาคั่นกลาง ระหว่างสำนักงานสลากฯ กับผู้ค้ารายย่อย ทั้ง ๆ ที่มีการกำหนดระเบียบห้ามไม่ให้มีผู้ค้าคนกลาง หรือยี่ปั๊ว ควบคุมแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล ทำให้สลากฯ กว่าจะมาถึงผู้ค้า ราคาก็แพงขึ้น ผู้บริโภคก็ต้องซื้อสลากฯ ในราคาที่แพงกว่าที่กำหนดไว้ อีกทั้งผู้ค้ามีความต้องการกำไรมากเกินไป จึงทำให้ราคาสูงขึ้นเช่นกัน
โดย นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่า สำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาขายสลากฯ เกินราคา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล หากพบการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที ขณะเดียวกันก็เตรียมจะเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายสลากฯ ใหม่ โดยจะใช้ระบบออนไลน์แทน เพื่อตัดตอนของยี่ปั๊วและซาปั๊ว ให้สลากฯ ถึงมือผู้ค้ารายย่อยโดยตรง และจะทำให้ราคาต้นทุนของผู้ค้าราย่อยก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมทําประชาพิจารณ์ หากผ่านความเห็นชอบจากประชาชน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ก็จะเสนอกระทรวงการคลังได้
"มีอิทธิพล" - Google News
August 05, 2020 at 07:42PM
https://ift.tt/3fuFsud
ลอตเตอรี่ 80 บาท ไม่มีจริง! กองสลากฯ เร่งเก็บข้อมูลแก้ปัญหาขายเกินราคา - ช่อง 7
"มีอิทธิพล" - Google News
https://ift.tt/3gIvPK6
Home To Blog
No comments:
Post a Comment